ออร่า?
เอ๊ะ ! ทำไมคนนี้ดูมีออร่าจัง หน้าตาสดใส
คนนั้นหน้าหมอง ๆ ดูออร่าหม่น ๆ นะ
.
ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่าออร่ากันบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ
เรียกว่าใช้ทักกันแทบจะติดปากเวลาเจอหน้ากัน
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ศึกษาเรื่องพลังงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแว๊บแรกที่คุณเห็นคนคนนึง
แล้วคุณรู้สึกว่าคนคนนั้นเป็นอย่างไร ?
ทำไมคนนี้ถึงดูโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ?
คนนี้ดูหมอง ๆ นะ?
หรือแม้กระทั่งเมื่อคุณอยู่ใกล้คนคนนี้แล้วทำไมรู้สึกต่างจากคนอื่น ?
คุณตอบได้ไหมว่าทำไม?
.
.
.
แสงออร่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้ว่าคุณจะมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ แต่คุณสามารถรับข้อมูลและความรู้สึกจากแสงออร่าของผู้อื่นได้นะคะ หากว่า…
– คุณรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคน
– คุณรู้สึกห่อเหี่ยวเมื่อได้ยินเสียงของอีกคน
– คุณรู้สึกว่าเพื่อนของคุณดูดี สวยหรือหล่อเป็นพิเศษ เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง
– คุณรู็สึกสดชื่นขึ้น เวลาใส่เสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง
– คุณรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องมองอยู่ เมื่อคุณหันไปก็พบว่ามีคนมองอยู่จริง ๆ
– คุณรู้สกชอบหรือไม่ชอบคนบางคน ในขณะที่เพิ่งเคยพบกันครั้งแรก
– คุณรู้สึกสงบเมื่อเข้าไปในสถานที่หนึ่ง
– คูณรู้สึกลุกลี้ลุกลนเมื่อเข้าไปในสถานที่บางแห่ง
– คุณรู้สึกสดชื่นมีพลังเวลาอยู่ใกล้กับคนบางคน
– คุณรู้สึกหมดแรงเวลาอยู่กับอีกคนนึง
>>>
>>>
>>>
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์เหล่านี้
ยินดีด้วยนะคะ……คุณสัมผัสและรับรู้ออร่าได้แล้ว
แม้จะเป็นการสัมผัสได้แบบเบื้องต้น แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยค่ะ 🙂
.
.
.
ออร่าคือ?
หากนำออร่ามาทำให้เข้าใจในทางวิทยาศาสตร์ ก็มีคนนำมาเขียนเยอะมากมาย
แต่แอนขอนำบทความจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งมีผู้เขียนได้เข้าใจง่ายมาให้อ่านกันค่ะ
(ที่มา : ใบเฟิร์น, P. (2008). มารู้จักออร่ากันเถอะ, Retrived Aug 7, 2020)
.
1. ออร่าคืออะไร
พลังออร่าเป็นคลื่นพลังรัศมีของมนุษย์(กายแสงของมนุษย์) มีลักษณะเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้ารอบร่างกายมนุษย์ ประกอบด้วยคลื่นไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็ก แสง สี และความร้อน สามารถประเมินโดยวัดด้วยเครื่องวัด ที่แปลผลออกมาเป็นสีต่าง ๆ สีของออร่าสามารถบอกถึงความสัมพันธ์ของกายและจิต ลักษณะพฤติกรรม การดำเนินอาชีพ ความสามารถทางจิตและการพัฒนาจิต แต่ไม่ใช่เป็นการวินิจฉัยโรค สีของออร่าจะเปลี่ยนตามอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ลมปราณ บุคคลรอบข้าง ธรรมชาติแวดล้อม
.
2. ออร่ากับสุขภาพ
พลังออร่าที่เข้มแข็งสามารถสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค หรือถ้าอ่อนแอระบบภูมิคุ้มกันจะลดลงทำให้เกิดโรค และเป็นโรคเรื้อรังได้ สีออร่าของความคิดและอารมณ์จะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
.
3. พลังงานในออร่ามาจากไหน
คลื่นพลังงานในออร่ามาจากหลายแหล่ง เช่นจากธรรมชาติรอบกาย จากสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อากาศที่หายใจ (ลมปราณ) ลมปราณมีลักษณะเป็นจุดประกายไฟฟ้าเล็กๆวิ่งวนไปมาในอากาศ กายแสงหรือออร่ามีแกนกลางซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นๆซ้อนกันอยู่ในไขสันหลัง แกนกลางอันนี้เปรียบเสมือนสายเมนไฟฟ้าซึ่งมีหน้าที่ปั่นและแจกจ่ายพลังงาน โดยมีจักระเป็นตัวปั่นพลังงานเข้าไปในกายแสงแต่ละชั้น จักระมีอยู่ด้วยกัน 7 จักระ แต่ละอันจะซ้อนกันอยู่ 7 ชั้น มีสี 7 สี คือ จักระที่ 7 สีม่วง จักระที่ 6 สีคราม
จักระที่ 5 สีน้ำเงิน จักระที่ 4 สีเขียว จักระที่ 3 สีเหลือง จักระที่ 2 สีแสด และจักระที่ 1 สีแดง
.
4. จักระกับออร่า
.
.
.
ที่จริงแล้วมนุษย์เราประมวลผลสิ่งที่สัมผัส รับรู้ได้
หาก”จิตสำนึก” คุณแปลผลได้ มันก็ออกมาข้อมูลให้คุณเข้าใจ
แต่หากยังแปลผลไม่ได้ จิตสำนึกยังไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร
สิ่งเหล่านี้ก็จะถูกเก็บไว้ใน “จิตไร้สำนึก” ของคุณค่ะ รับรู้และบันทึกไว้แล้ว
คุณก็จะรู้สึกแบบนี้ แต่คุณก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้
ซึ่งออร่าก็คงจะเป็นเรื่องหนึ่งที่คิดว่าเกือบจะทุกคนคงจะสัมผัสได้ แต่แค่แปลผลไม่ออก ไม่เข้าใจ
.
.
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้สามารถมองเห็นออร่าได้ แต่ทุกคนก็สามารถสัมผัสออร่าได้เหมือนกัน
เพราะออร่านั้นมีความสำคัญมากในเรื่องพลังงาน
ออร่าไม่ใช่แค่แสงที่ครอบอยู่รอบกายหรือเฉพาะกายภาพเราอย่างเดียว
แต่ยังบ่งบอกถึงพลังงาน จิต อารมณ์ ของบุคคลนั้นด้วยเช่นกัน
.
มีหลาย ๆ คนที่มีความสามารถในการมองเห็นออร่าของคนอื่น
บางคนมองเห็นเป็นสี เป็นแสง เป็นคลื่น ฯลฯ แล้วแต่การรับรู้ของแต่ละคน
นั่นอาจแสดงว่าคนนั้นมีการสัมผัสและรับรู้ได้ และสามารถแปลผลได้ด้วยจิตสำนึกแล้ว
ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่า สิ่งนี้คือออร่า และมีความหมายอย่างไร
.
.
การสัมผัส รับรู้ และจับออร่า สามารถทำกันได้อย่างแพร่หลาย และง่ายดาย
ในคลาสเรียนพลังงานเรกิ ก็มี workshop การสัมผัสออร่าตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงขั้นสูงกันเลย
เพราะเมื่อเราสามารถสัมผัสออร่าได้แล้ว
เราก็จะเข้าใจ สมองแปลผลว่ามันมีอยู่จริง
สัมผัสได้ และให้จิตสำนึกก็แปลผลได้
ที่สำคัญคือ ทุกคนสามารถสัมผัสและจับออร่ากันได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยค่ะ
.
.
ที่สุดแล้ว เรื่องพลังงานก็มีอยู่มานานแล้ว
แค่เราสัมผัสหรือรับรู้ได้ เราก็จะเข้าใจและจิตสำนึกก็จะแปลผลได้ 🙂
.
.
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะนี้ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันค่ะ
ใครอยากรู้วิธีฝึกฝนเบื้องต้น พิมพ์บอกกันใน “คอมเม้น” ไว้ได้เลยนะคะ
ถ้ามีคนสนใจ เดี๋ยวแอนจะมาแชร์ให้ฟังในบทความต่อไป
—————————-
—————————-
❤️ Soul Good Healing ❤️
อยากให้ทุกคนสัมผัสพลังงานที่มีอยู่จริง
และพัฒนาจิตวิญญาณไปร่วมกันค่ะ
#ทำสมาธิ
#meditation
#reiki
#เรกิญี่ปุ่น
#aura
#ออร่า
Pingback: "กายเนื้อหายไป แต่กายทิพย์ยังคงอยู่" ออร่า (Aura) ตอนที่ 2
Pingback: "กายทิพย์มีจริง?" ออร่า (Aura) ตอนที่ 3