“โชคดีมาจากไหน?”

อาเฮียเลี้ยงม้าคนหนึ่งอาศัยอยู่กับพ่อที่ในพื้นที่ชนบทแถบชายแดน

วันหนึ่งม้าเกิดคึก วิ่งหนีหายเข้าไปในเมือง

เพื่อนบ้านต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับเขา บอกว่า…

“โชคร้ายจังเลยนะเฮีย”

แต่พ่อของเขากลับบอกว่า

“อาจจะใช่ หรือ อาจจะไม่ ก็ได้”

หลายวันต่อมา ม้าวิ่งกลับมาพร้อมกับพาฝูงเพื่อนม้ามาอีกหลายตัว

เพื่อนบ้านต่างมาแสดงความยินดีกับเขาบอกว่า…

“โชคดีจังเลยนะเฮีย”

แต่พ่อของเขากลับบอกว่า

“อาจจะใช่ หรือ อาจจะไม่ ก็ได้”

พอได้ม้ากลับมา ชายคนนั้นก็เกิดคึก ควบม้าไปเที่ยวเล่นบนเขา

จนกระทั่งเขาตกลงจากหลังม้า ขาหัก เดินไม่ได้

เพื่อนบ้านต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับเขา บอกว่า…

“โชคร้ายจังเลยนะเฮีย”

แต่พ่อของเขากลับบอกว่า

“อาจจะใช่ หรือ อาจจะไม่ ก็ได้”

ไม่กี่วันต่อมา มีสงครามชายแดน

ชายหนุ่มในหมู่บ้านถูกเกณฑ์ไปต่อสู้รบกันทุกคน

ยกเว้นชายเลี้ยงม้า เพราะว่าเขาขาหัก เดินไม่ได้

ชายหนุ่มที่ไปรบ บาดเจ็บ เสียหายกันมากเกินครึ่ง

เพื่อนบ้านต่างมาหาครอบครัวเลี้ยงม้าแล้วบอกว่า…

“โชคดีจังเลยนะ…เฮียกับลูกน่ะ”

แต่พ่อของเขากลับบอกว่า

“อาจจะใช่ หรือ อาจจะไม่ ก็ได้”

……

วันนี้หยิบเรื่องเล่าปรัชญา แฝงแนวคิดที่ล้ำลึก มีต้นเรื่องมาจากภาษาจีนมาฝากค่ะ เป็นมุมมองของความ “โชคดี” และ “โชคร้าย” ที่สุดท้ายแล้ว “อาจจะใช่ หรือ อาจจะไม่ ก็ได้”

ในศาสตร์โหราศาสตร์ต่าง ๆ ทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น ตะวันตก อินเดีย ฮาวาย ฯลฯ ต่างก็มีมุมมองเรื่องความโชคดี ในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งที่เหมือนกัน ก็คือทุกสิ่งล้วนเกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งนั้น เช่น ดูพลังงานการเคลื่อนของดาว , ดูพลังงานฟ้า , ดูพลังงานนักกษัตร ปีไหนเฮง ปีไหนชง , พลังงานดิน ฮวงจุ้ย , พลังงานวันเดือนปีเวลาเกิด , ดูดวง บลาบลาบลา

สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสัมพันธ์กับพลังงานแทบจะทั้งนั้น ทำให้ต่างก็พากันหาพลังงานที่มาช่วยเสริม หรือมาทดแทน ในช่วงที่พลังขาดหายไป เช่น ช่วงพลังงานดวงส่งเสริมกัน ก็ยิ่งโชคดี ทำอะไรก็ดี ถูกที่ ถูกเวลา แต่ช่วงพลังงานดวงขัดแย้งกัน ทำอะไรก็เหมือนไม่เป็นใจไปซักอย่าง ต้องไปแก้ชง พกเครื่องลาง ของขลัง กันเต็มกระเป๋า