📌 กลุ่มวิชาพื้นฐาน - เรกิ 📌
เรกิมาจากภาษาญี่ปุ่น 2 คำ คำว่า เร (靈) และ กิ (氣)
Rei-เร ภาษาญี่ปุ่น คือ 靈 หมายถึง จิตวิญญาณ, ปัญญาทางจิตวิญญาณ, พลังเหนือธรรมชาติ, พลังจากเบื้องบน
“霝” เป็นคำญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มาจากภาษจีน ซึ่งก็คือคำเดียวกับคำว่า “หลิง” (จิตวิญญาณ) หมายถึง ฝนที่ตกลงมา เนื่องจากในสมัยโบราณผู้คนเชื่อว่าฝนจำเป็นต้องอธิษฐานต่อฟ้าและเทพเจ้า ซึ่งตอนอธิษฐานต้องมีจิตใจบริสุทธิ์ มีความจริงใจ ซึ่งเรียกว่า “ความจริงใจนำไปสู่จิตวิญญาณ” ดังนั้น “” จึงปรากฏขึ้น ด้านบนคือ “霝” ซึ่งแปลว่าฝน
ด้านล่างนี้คือ “示“ เป็นแท่นสำหรับบวงสรวง เพื่อแสดงความจริงใจต่อเบื้องบน
และ “玉” เนื่องจากคนโบราณเชื่อว่า หยก เป็นสิ่งมีค่าและแสดงออกถึงจิตวิญญาณ ดังนั้นคำว่า “เร” นี้จึงเป็นคำที่แสดงถึงเบื้องบน, การรับพรจากเบื้องบน, จิตวิญาณเบื้องสูง
Ki-กิ ภาษาญี่ปุ่น คือ 氣 หรือที่เรารู้จักกันในคำว่า ชี่ (Chi,Qi) หมายถึง พลังงาน, พลังงานของชีวิต
ในทางการแพทย์แผนจีนก็จะให้ความสำคัญของการไหลพลังงานชีวตที่เรียกว่าชี่นี้มาก เพราะถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ และพลังงานเหล่านี้ทำหน้าที่ไหลไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย หากพลังงานไหลติดขัด คั่ง ค้าง พร่องไป ก็จะทำให้อวัยวะทำงานติดขัด ขาดพลัง ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย แต่หากพลังงานไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ ร่างกายก็จะสมบูรณ์ แข็งแรง มีชีวิตชีวา มีพลังไปด้วย
ดังนั้น พลังงานเรกิ เป็นพลังงานจากเบื้องบนที่เข้าไปปรับสมดุลร่างกาย อารมณ์ และจิตวิญญาณ ทำให้ผู้ที่ฝึกฝนเรกิ มีพลังงานเข้าไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่ออวัยวะต่าง ๆ มีพลังงานเข้ามาอย่างเหมาะสม ก็จะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
เปรียบเทียบร่างกายเหมือนรถยนต์ อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายก็เป็นเหมือนเครื่องยนต์ที่ประกอบไปด้วย กลไก ชิ้นส่วนหลาย ๆ ชิ้นมาประกอบกัน หากแต่ละชิ้นส่วนมีพลังงานเติมเข้าไปหล่อเลี้ยงครบทั้งหมด เครื่องยนต์ก็จะเปิดใช้งานได้ รถยนต์ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในเรกิญี่ปุ่นดั้งเดิม เรียกว่า Reiho (Reiki Ryoho)
พลังการรักษาจากธรรมชาติ
นอกไปจากที่พลังงานเรกิช่วยปรับสมดุลร่างกายแล้ว ในขั้นสูงของเรกิยังเป็นเป็นการเข้าถึงพลังงานที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณด้วย
สำหรับใครที่อยู่ในสายพลังงาน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรกิ ถือเป็นพลังงานที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป อเมริกา ถึงกับนำเรกิเข้าไปไว้ในบำบัดร่วมกับการแพทย์ ซึ่งรวมประกันสังคมของโรงพยาบาลเลย
(บทความจาก Washingtonpost : Reiki goes mainstream: Spiritual touch practice now commonplace in hospitals)
แต่อย่างที่หลายท่านทราบดี ถึงแม้ว่าเรกิจะโด่งดังและแพร่หลายมากในฝั่งตะวัน แต่ว่าแท้จริงแล้วต้นกำเนิดของเรกิ มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกค้นพบโดยอาจารย์ มิคาโอะ อูซุย ซึ่งแน่นอนว่าเดิมก่อนที่เรกิ จะถูกนำเข้าไปเผยแพร่ ทางฝั่งตะวันตกก็ย่อมมีสายพลังงานเดิมของฝั่งตะวันตกกันอยู่ใช่ไหมคะ อย่างเช่น พวก Witchcraft, Shaman, Wizard, Magician, หรือแม้แต่กระทั่งศาสนา Chris ก็ตาม
ภาพผู้ค้นพบเรกิ : มิคาโอะ อูซุย (Mikao Usui) จาก วิกิพีเดีย
ทีนี้การที่คนที่ฝึกพลังงานเดิมจะยอมรับพลังงานใหม่หรือแม้กระทั่งความรู้ ศาสตร์ต่าง ๆ อะไรก็ตาม ก็ต้องเป็นอะไรที่ว้าววมาก ๆ หน่อย อย่างน้อยคนก็ต้องเห็นว่ามันดีกว่าของเดิม เห็นผลมากกว่าของที่มีอยู่ ถึงจะยอมรับ ยอมเปลี่ยนกันได้ถูกไหมคะ โดยเพราะอย่างยิ่ง เมื่อเป็นพลังงานมาจากชาติตะวันออก จากแถบเอซีย จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่อีกซีกโลกหนึ่งเลย ดังนั้นถ้าคนตะวันตกจะยอมรับได้ ก็แสดงว่ามันต้องสามารถใช้ได้จริง เห็นผลลัพธ์ และน่าเชื่อถือถูกไหมคะ
ซึ่งตามประวัติ เรกิ ถูกนำเข้าไปโดยลูกศิษย์ของลูกศิษย์ของอาจารย์ อูซุย อีกทีนึง โดยหลังจากที่ได้มีการปรับหลักสูตรและการใช้พลังงานเพื่อการฮีลลิ่งแล้ว ดังนั้นวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของเรกิ ถูกนำไปใช้เพื่อการพัฒนาจิต ไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อการบำบัดหรือฮีลลิ่งอยู่แล้ว
ต่อมาเมื่อลูกศิษย์ของอาจารย์อูซุย เห็นผลว่านอกจากการพัฒนาจิตแล้ว ก็ยังส่งผลต่อสุขภาพและการบำบัดได้ด้วย จึงพยายามนำเรกิไปใช้ในคลีนิค (ลูกศิษย์ของอาจารย์อูซุยเป็นหมอ) และเมื่อพบว่ามันใช้ได้ผลดี ก็เริ่มมีการใช้มือเข้ามาร่วมในการส่งพลังงานด้วย จนมีการพัฒนาไป และเริ่มมีการเผยแพร่ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปสู่การแพร่หลายไปสู่ดินแดนตะวันตกนั่นเองค่ะ จะสังเกตว่าพอพูดถึงเรกิ หรือแม้แต่ค้นหาข้อมูลของเรกิก็ตาม จะพบว่าการรับรู้ส่วนใหญ่เน้นการส่งพลังด้วยมือเป็นหลัก
มิคาโอะ อูซุยและลูกศิษย์
ยังมีอีกหลายประวัติ ที่มาจากหลายแหล่งที่มา บ้างก็กล่าวว่า อาจารย์ อูซุย ไปเรียนที่ประเทศอเมริกา และไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่โน่น หรือบ้างก็กล่าวว่า อาจารย์อูซุยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่โตเกียว แล้วเดินทางไปเผยแพร่เรกิที่อเมริกา ซึ่งแต่ละเรื่องกราวก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเมื่อสมัยที่เรกิเริ่มเข้าไปฝั่งตะวันตก เกือบร้อยปีที่แล้วที่ข้อมูลยังไม่สามารถค้นหาได้ง่ายอย่างปัจจุบัน หรือการเดินทางก็ไม่ได้สะดวกอย่างเช่นทุกวัน
ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีสตอรี่หรือเรื่องราวที่จะทำให้คนในแถบนั้นยอมรับได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัจจุบันมีอาจารย์เรกิหลายท่านได้มีการค้นหาและอ้างอิงข้อมูลจริงจากประวัติศาสตร์ ตามสถานที่จริง ตามประวัติจริง ๆ แล้ว ก็พบความคลาดเคลื่อนไปมากพอสมควรค่ะ
โดยสรุปแล้ว เมื่อเรกิเข้าไปเผยแพร่ในฝั่งตะวันตก ก็เริ่มมีการนำเรกิ ไปผสมผสาน ประยุกต์กันกับศาสตร์เดิม พลังงานเดิมที่มีอยู่ ของท้องถิ่นนั้น จนเรกิ กลายเป็นชื่อสามัญของพลังงาน ที่เมื่อเติมเข้าไปก็กลายเป็นวิชาพลังงานใหม่ขึ้นมา เช่น Holy Fire Reiki, Tera Mai Reiki, Lightarian Reiki, Reiki Grand Master, Crystal Reiki, Sun Reiki และอื่น ๆ อีกมากกว่าร้อยพลังงาน
เหตุผลที่สำคัญอีกอย่างที่ทำให้เรกิ เป็นที่ยอมรับในประเทศแถบตะวันตกได้ก็คือ พลังเรกิ นั้นมีความพิเศษ เพราะเป็นพลังงานพื้นฐานที่สามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด และมีข้อดีเป็นพิเศษคือ พลังงานมันสามารถพัฒนาไปตามความสามารถของเราได้เรื่อย ๆ คือยิ่งเราพัฒนาไปมากเท่าไหร่ พลังงานนี้ก็จะยิ่งมีความแปลกประหลาด อัศจรรย์ตามที่เราพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ เช่น มีความละเอียดขึ้น เป็นแสงสว่าง มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งคนที่เรียนเรกิจากขั้นที่ 1 มาจนถึงขั้นมาสเตอร์ เห็นการเปลี่ยนแปลงพลังงานเรกิของตัวเองได้อย่างชัดเจนกันทั้งนั้น
“ดังนั้นเรกิ จึงถือเป็นวิชาที่จำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อใช้วิชาอื่น ๆ ได้
เนื่องจากเป็นพื้นฐานเรื่องต่าง ๆ ของพลังงาน รวมถึงวิธีการใช้งานในแบบต่าง ๆ ที่จำเป็นค่ะ”
*ระดับขั้นของเรกิ*
- Reiki 1 วิชาพื้นฐานพลังงาน รับ-ส่ง สัมผัสพลังงานได้ ส่งพลังงานทางไกลได้ การแสกนออร่า การแสกนด้วยจิต
- Reiki 2 สัมผัสพลังงานหลากหลายรูปแบบ ทำให้แยกแยะแต่ละพลังงานได้ ส่งพลังงานข้ามมิติเวลา การสร้างพื้นที่พลังงานของตัวเอง การส่งพลังเข้าไปจัดการเฉพาะเรื่อง เช่น อารมณ์ จิตใจ ความคิด การกราวดิ้ง เป็นต้น
- Reiki 3 ยกระดับพลังงานและการเข้าถึงแหล่งพลังงานที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด การพัฒนาเพื่อเชื่อมต่อกับเบื้องบน, Higher self และ การใช้พลังเรกิเพื่อบำบัดในขั้นสูง (Reiki Surgery)
- Reiki Master พลังงานขั้นสูงของเรกิ เรียนรู้รายละเอียดของแต่ละระดับของพลังงานเช่น Physical, Emotional, Mental, Higher self, Soul, Divine เป็นต้น สามารถสอนและแอดทูนพลังงานให้คนอื่นต่อได้ และสามารถเรียนต่อพลังงานขั้นสูงได้แทบจะทุกวิชา เนื่องจากสามารถใช้พลังงานในขั้นสูงได้แล้ว
เรกิ 1 โชเด็น
(靈氣初傳)
18,000 บาท
วิชาพื้นฐานพลังงาน
สัมผัสพลังงานได้
รับ-ส่งพลังงานได้
ส่งพลังงานทางไกลได้
การแสกนออร่า
การแสกนด้วยจิต
พลังในชีวิตประจำวัน
เวลาเรียน 2 วัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
เรกิ 2 โอกุเด็น
(靈氣奥傳)
ต้องผ่านเรกิ 1
สัมผัสพลังงานหลากหลายรูปแบบ
แยกแยะแต่ละพลังงานได้
ส่งพลังงานข้ามมิติเวลา
การสร้างพื้นที่พลังงานของตัวเอง
การส่งพลังเข้าไปจัดการเฉพาะเรื่อง
เช่น อารมณ์ จิตใจ ความคิด
เวลาเรียน 2 วัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
เรกิ 3 ชินปิเด็น
(靈氣神秘傳)
ต้องผ่านเรกิ 2
การเข้าถึงแหล่งพลังงานที่สูงขึ้น
แบบก้าวกระโดด
การพัฒนาเพื่อเชื่อมต่อกับเบื้องบน,
Higher self และ
การใช้พลังเรกิเพื่อบำบัดในขั้นสูง (Reiki Surgery)
เวลาเรียน 2 วัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
เรกิ มาสเตอร์ ชิฮาน
(靈氣師範)
ต้องผ่านเรกิ 3
พลังงานขั้นสูงของเรกิ
เรียนรู้ความลับของพลังงาน เช่น
Physical, Emotional, Mental, Higher self, Soul, Divine
สามารถสอนและแอดทูนพลังงานได้
เรียนต่อพลังงานขั้นสูงได้ทุกวิชา
เวลาเรียน 4 วัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
📌 กลุ่มวิชาอัพเกรดพลังเรกิ 📌
หลังจากที่จบเรกิมาสเตอร์ ซึ่งเป็นขั้นสูงของเรกิแล้ว วิชากลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออัพเกรดพลังเรกิให้มันสูงขึ้น มีคุณสมบัติมากขึ้น ความถี่สูงขึ้น เพื่อให้มีประโยชน์มากขึ้นจากเรกิปกติ
ที่เปิดมาแล้วก็เช่น
- Reiki Grand Master,
- Holy Fire Online,
- Divine Fire,
- Lightarian Reiki
หมายเหตุ 𝐋𝐢𝐠𝐡𝐭𝐚𝐫𝐢𝐚𝐧 (ไลทาเรียน) เป็นวิธีการปรับจูน (Attunement) ในรูปแบบพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการปรับจูนเพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาจิตวิญญาณ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อใช้พลังงานโดยตรง ซึ่งต่างกับการปรับจูนแบบปกติทั่วไปที่จะเน้นไปที่การปรับจูนเพื่อใช้พลังงาน
ทำให้หลังจากปรับจูนแล้ว เราก็ไม่ได้ว่าจะใช้พลังงานอะไรได้เพิ่มขึ้น แต่คุณประโยชน์ที่ได้รับจากการปรับจูนวิธีพิเศษนี้เหนือกว่าการปรับจูนด้วยวิธีอื่น ๆ อย่างมากอย่างไม่มีอะไรทดแทนได้
📌 กลุ่มวิชาเรกิ ที่โด่งดังในฝั่งตะวันตก 📌
อย่างที่อธิบายไปว่าพลังงานเรกิ ได้ถูกนำไปผสมผสานกับวิชาหรือศาสตร์ดั้งเดิมของพลังงานสายตะวันตก ทำให้อาจารย์สอนเรกิในต่างประเทศระดับปรมาจารย์หลายท่านที่เป็นต้นสายของพลังงานเหล่านี้ เช่น อาจารย์ Kathleen Milner, อาจารย์ William L. Rand ก็มีรูปแบบการใช้งานพลังงานขั้นสูง มีการประยุกต์พลังงานที่แตกต่างออกไป (แต่มีพื้นฐานจากเรกิเช่นเดียวกัน)
กลุ่มวิชานี้จึงเพื่อให้รู้ว่า ในต่างประเทศเขาเรียนและใช้พลังงานกันอย่างไร และทำไมถึงโด่งดังมากในต่างประเทศ เช่น Tera Mai Reiki, Holy Fire เมื่อเรียนแล้วทุกคนก็สามารถทำได้เหมือนกัน อย่างในคลาสเรกิ แอนก็นำเทคนิคและวิธีการเฉพาะบางอย่างของวิชาในกลุ่มนี้มาใช้ร่วมด้วย และนักเรียนก็ดูชอบใจกับเซสชั่นวิชาเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน
📌 กลุ่มวิชาที่ไม่ต้องมีพื้นฐานพลังงาน 📌
Workshop เคล็ดลับพลังงานหน้าใส เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงาน ด้วยการผ่านการ Workshop ร่วมกันตลอด 21 วัน เพื่อเข้าถึงการฟื้นฟูภายในและเปล่งประกายออกมาทางภายนอก เป็นหลักสูตรออนไลน์สามารถดูย้อนหลังได้
เพื่อให้ได้เห็นผลลัพธ์ ควร Workshop ต่อเนื่องตลอด 21 วัน
กิจกรรมทำสมาธิประจำเดือน แต่ละเดือนมีธีมการทำสมาธิที่แตกต่างกัน เช่น
ทำสมาธิ เติมไฟในการทำงาน เป็นต้น
สามารถซื้อไฟล์ย้อนหลังได้ โดยไฟล์เสียงประกอบด้วยคลื่นเสียงปรับคลื่นมอง เพื่อให้เข้าถึงสภาวะสมาธิได้อย่างรวดเร็วและเข้าสภาวะสมาธิได้ลึกขึ้น
📌 กลุ่มวิชาประยุกต์ 📌
เป็นวิชาที่ประยุกต์เรื่องพลังงาน, จิต ไปในด้านต่าง ๆ ในชีวิตของเรา โดยคอร์สพวกนี้จำเป็นต้องผ่านคอร์สพลังงานพื้นฐานตามด้านบนมาบ้างถึงจะสามารถเรียนได้ เนื่องจากเป็นการประยุกต์แล้ว
เป้าหมายหลักของคอร์สนี้คือการใช้พลังงานในชีวิตประจำวันของเรา เช่น การจัดการชีวิต, การเพิ่มพลังตัวเอง, จนกระทั้งเรื่องเกี่ยวกับหาเงิน Manifestation, Abundance เช่น…
-คอร์สปลุกความสามารถทางจิต I-II (Developing Psychic Abilities I-II) ที่เป็นการปรับจูนพลังงานเพื่อเพิ่มความสามารถทางจิตตามความสามารถของแต่ละคน เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ สัมผัสทิพย์ รับรู้ทิพย์ การหยั่งรู้ เป็นต้น
–Ásgarðr I-III ที่เป็นพลังงานเทพนอร์สและการใช้เวทย์ของรูน ซึ่งขั้นที่ 1 ที่เป็นพลังงานเทพนอร์สได้สอนออนไลน์เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นขั้น 2 และขั้น 3 ซึ่งจะเป็นการใช้เวทย์ของรูนทั้ง 24 อักษร และการใช้มหาเวทย์ในขั้นสูง
–Crystal I-II เป็นการใช้พลังงานหิน คริสตัล อัญมณี ซึ่งโดยปกติทั่วไปคนมักใช้กันไม่ได้ผล เพราะวิชาเหล่านี้มันมีกระบวนการพิเศษ ที่ไม่ใช่แค่ซื้อหินเอามาใส่แล้วจบ ผู้ใช้จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างดีก่อน ไม่อย่างนั้นการใช้หินจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
–Colour Energy เราอาจจะเคยได้ยินว่าใส่เสื้อผ้าสีนี้เสริมเรื่องโชคลาภ ใส่เสื้อผ้าสีนี้เป็นอัปมงคล หรือใส่เสื้อผ้าสีตามธาติส่งผลดีกับเรา แต่แท้จริงแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นอย่างนั้น? ในคลาสนี้นอกจากจะมีเนื้อหาและพลังงานของแต่ละสีแล้ว จะให้ผู้เรียนได้มีการทดสอบ ทดลอง ให้สัมผัสและรับรู้ได้ด้วยตัวเองจริง ๆ ว่าตกลงแล้ว สีไหนที่เหมาะสมและสีไหนที่ไม่ส่งผลดีกับเรากันแน่ 🙂
–Upgrade 7 Energies เป็นคอร์สพลังงานพิเศษ 7 พลังงานเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันโดยมีพลัง
• Orb of Sun
• Gold Reiki
• Full Spectrum Light
• Silver Reiki
• Solar Angels
• Lifeforce
• Tachyon
–ASPA I-II (Against Severe Psychic Attacks การต่อต้านการโจมตีทางจิตอย่างรุนแรง 1-2) เป็นการปรับจูนพลังงานเพื่อป้องกันเราจากพลังงานลบต่าง ๆ ที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน รวมทั้งพลังงานที่กำจัดพลังงานลบเหล่านั้นออกไป ซึ่งเป็นคอร์สออนไลน์ที่สามารถเรียนย้อนหลังได้ทั้ง 2 ขั้น
-Tools of Titans I-II เป็นการปรับจูนพลังงานของเทพกรีก และเครื่องมือพลังงานในขั้นสูง ซึ่งในขั้นที่ 1 ได้มีการปรับจูนพลังงานเทพกรีก 12 องค์ 12 ราศี ซึ่งเป็นคอร์สออนไลน์ที่สามารถเรียนย้อนหลังได้เช่นเดียวกัน ส่วนในขั้นที่ 2 มีแผนเปิดการใช้พลังงานในขั้นสูงต่อไป
–Cai Shen Ye I ไฉ่สิ่งเอี้ย 10 องค์ เป็นคอร์สที่ได้รับการสอบถามมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ เพราะเป็นการปรับจูนพลังงานของเทพไฉ่สิ่งเอี้ยทั้ง 10 องค์ ซึ่งเป็นเทพแห่งโชคลาภโดยตรง แต่ละองค์ก็มีคุณสมบัติการใช้พลังงานที่แตกต่างกันในแต่ละเรื่อง เช่น พลังของเทพแห่งไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ พลังของเทพโชคลาภ พลังของเทพแห่งเงินทุน เป็นต้น
–Destiny Gods เป็นคอร์สพลังงานจากวิชา “สุดยอดวิชาอภิปรัชญาจีน “ฉีเหมินตุ้นเจี่ย (奇門遁甲)” เป็นคอร์สที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการรู้จักเทพประจำตัวของตัวเอง (ตามวันเดือนปีเวลาเกิดเฉพาะบุคคล) ซึ่งเป็นเทพที่เราสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นพลังงานที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เราเกิด เป็นเสมือนพ่อแม่ของเราที่อยู่กับเรามา และเราสามารถเชื่อมต่อเพื่อดึงเอาศักยภาพ พรสวรรค์ที่แท้จริงของตัวตนเราออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่ได้เรียนวิชาฉีเหมินมา แต่ก็สามารถเรียนรู้และเข้าใจในส่วนของ 10 เทพได้อย่างเข้าถึง
–กิจกรรมปรับพลังงาน เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อปรับพลังงานในแต่ละเรื่อง ให้เรามีพลังงานความถี่ในหัวข้อที่สนใจ เป็นกิจกรรมที่จัดสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจ โดยอาจจะมีหรือไม่มีประสบการณ์พลังงานมาก่อนก็ได้ (แต่หากมีพื้นฐานเรกิมาแล้วจะทำให้สัมผัสพลังงานได้ชัดเจนมากขึ้น) เช่น ไฉ่สิ่งเอี้ยประทานพร, ตรีมูรติ ตรีเทวี, ปรับพลัง 12 คืนศักดิ์สิทธิ์แห่งความอุดมสมบูรณ์, Abundantia Abundance Attunement ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จัดออนไลน์ สามารถฟังไฟล์เสียงย้อนหลังและปรับพลังงานได้เช่นเดียวกัน
โดยทุกคอร์สจะต้องมีพื้นฐานเรกิ 1 มาก่อนเป็นอย่างน้อย หรือ เรกิ 2 ตามแต่การประยุกต์ใช้พลังงานต่อไป
📌 Bio-Qi 📌
คอร์สนี้เป็นกลุ่มพลังงานที่ใช้พลังชี่ พลังปราณ เป็นหลัก โดยหลังจากได้นำมาใช้กับตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้างแล้ว พบว่าส่งผลกับสุขภาพได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว เนื่องจากว่าพลังชี่ พลังปราณนี้เป็นพลังที่ระดับใกล้เคียงกันกับเรื่องสุขภาพ ร่างกายอยู่แล้ว หากมีจุดพลังงานใดที่ไม่สมดุล จุดที่พลังงานคั่ง หรือพลังงานค้างอยู่ ก็สามารถใช้พลังงานชี่ พลังปราณนี้จัดการได้ และเมื่อเป็นพลังงานในระดับเดียวกันแล้ว จึงส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้อย่างทันทีและรวดเร็ว เช่น …
คนที่มีอาการปวดหลังมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ไม่สามารถก้มตัวลงแตะพื้นได้เลย ซึ่งได้มีการรักษาแบบปกติและรักษาทางเลือกจากหลายศาสตร์ ก็ไม่บรรเทาเท่าไหร่ แต่หลังจากใช้พลังปราณช่วยไม่ถึง 10 นาที ก็ทำให้อาการดีขึ้นโดยทันที สามารถก้มลงแตะพื้นได้ โดยคนที่ปวดหลังนั้นก็ประหลาดใจในผลลัพธ์เช่นเดียวกัน,
หรือเคสคนที่มีอาการปวดสะโพกช่วงก้นมาหลายปี โดยที่เข้าใจว่าเป็นเพราะการนั่งทำงานมากเกินไป แต่หลังจากใช้พลังปราณในการจัดการ ไม่ถึง 5 นาที ก็พบว่าอาการปวดก้นนั้น หายไปโดยทันที ซึ่งสาเหตุที่จริงแล้วเป็นเพราะพลังงานที่มันไปคั่งค้างตรงบริเวณนั้นมากเกินไป แต่เมื่อทำการปรับสมดุลพลังงานแล้ว ก็ทำให้อาการปวดนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง เป็นต้น ซึ่งมีอีกหลายเคสที่ได้สัมผัสและได้เห็นผลที่เกิดขึ้นจริง
นอกไปจากนั้นยังมีการทดสอบ ทดลอง ว่าแต่ละจุดเส้นลมปราณของเรา ตรงจุดไหนแข็งแรง จุดไหนที่ควรต้องไปเพิ่มพลัง รวมทั้งพลังงานภายนอกส่งผลกับพลังลมปราณของเรามากขนาดไหน สิ่งของใดที่เราพกติดตัว ช่วยให้พลังลมปราณของเราแข็งแกร่งขึ้น สิ่งของใดไม่นำพาพลังงานลมปราณของเรา ^^ ซึ่งเป็นวิธีการทดสอบที่รู้ผลได้ในทันที คอร์สนี้เลยมี workshop ให้ทำกันตลอดเวลา ทำให้มีความสนุกสนานและได้ประโยชน์อย่างมาก
ปัจจุบันมีทั้งหมด 10 ขั้น
• Bio-Qi 1 จำเป็นต้องมีพื้นเรกิ 1 เป็นการใช้พลังงานในขั้นพื้นฐาน แต่ก็ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน
• Bio-Qi 2-10 จะต้องเรียนจบเรกิ ชิฮาน หรือเรกิมาสเตอร์แล้วเท่านั้น เนื่องจากการที่จะใช้พลังงานในขั้นสูงเพื่อให้เห็นในทันทีและรวดเร็วได้นั้น ผู้ฝึกจำเป็นต้องมีการฝึกฝนและเข้าใจพลังงานในขั้นสูงมาแล้ว จึงจะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌 กุณฑลินี 📌
คลาส “กุณฑลินี” นี้เป็นพลังงานขั้นสูงที่เป็นการยกระดับความสามารถทางพลังงานอย่างสิ้นเชิง
เพื่อให้การเชื่อมต่อพลังงานและรับพลังงานจากเบื้องบนได้สูงขึ้น พลังงานบริสุทธิ์ขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดของการเรียนคลาสกุณฑลินีขั้นสูงนี้คือ ต้องมั่นใจว่าผู้เรียนทุกท่านมีช่องทางพลังงานที่สะอาด กว้าง และพร้อมที่จะนำพลังงานขั้นสูงนี้ขึ้นมาใช้ เพราะพลังงานมีความรุนแรงและทรงพลัง หากช่องทางพลังงานของผู้เรียนไม่พร้อมอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ดังนั้นในคลาสจึงเป็นการเน้นกระบวนการในการเคลียร์ช่องทางพลังงาน และระบบจักระทั้งหมดของร่างกาย เพื่อให้พร้อมสำหรับการปลุกกุณฑลินี เมื่อผู้เรียนทุกท่านพร้อมแล้ว จึงเป็นการนำพลังงานในขั้นสูงนี้มาใช้ โดยวิธีพิเศษที่ทำให้พลังงานถูกยกระดับสูงไปจากเดิมขึ้นโดยสิ้นเชิง
เนื้อหาในขั้นอื่น ๆ เป็นความลับ บอกเมื่อเข้ามาเรียนในขั้นต้นเท่านั้น