“สัญลักษณ์”
เรกิดั้งเดิมญี่ปุ่น VS เรกิทั่วไปตะวันตก
จากบทความที่พูดถึงความแตกต่างของ เรกิดั้งเดิมญี่ปุ่น VS เรกิทั่วไปตะวันตก
วันนี้เลยมีอีกข้อที่แตกต่างมาแชร์กันค่ะ
สัญลักษณ์, ยันตรา, มนตรา
ในเรกิ ขั้นที่ 2 จะเป็นการใช้สัญลักษณ์ และการใช้พลังที่หลากหลายมากขึ้นจากเรกิ 1 ค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งทั้ง 2 สายก็จะมีสัญลักษณ์ที่ถ่ายทอดเหมือนกันและมีบางสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน
ดั้งเดิมมาสัญลักษณ์เรกิ ถือเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ เก็บเป็นความลับ ไม่มีการจดบันทึกไว้เป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร เพราะถือว่าเป็นความลับเฉพาะภายใน หรือหากมีก็จะเผาทำลายหลังจากถ่ายทอดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
แต่ในปัจจุบัน เราสามารถค้นหาจากอากู๋ Google ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเราจะสามารถใช้สัญลักษณ์ได้อย่างทรงพลังและมีประสิทธิภาพ หลังจากได้รับการปรับจูนพลังงาน (Attunement) ในเรกิ 2 โอกุเด็น
ปัจจุบัน สัญลักษณ์เรกิมีเยอะมาก แต่ที่เป็นต้นฉบับดั้งเดิม และสัญลักษณ์ที่ใช้กันเป็นหลัก มีอยู่ 7 สัญลักษณ์ แบ่งเป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมและสัญลักษณ์ตะวันตกที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ มีอะไรบ้างไปดูของแต่ละสายกันเลยค่ะ
เรกิสายญี่ปุ่นดั้งเดิม
______
#เรกิสายญี่ปุ่นดั้งเดิม
สัญลักษณ์ที่มาจากญี่ปุ่นดั้งเดิมมีอยู่ 3 สัญลักษณ์ เดิมสัญลักษณ์เป็นความลับ ถ่ายทอดเพียงแค่การสอนจากอาจารย์สู่ศิษย์ แต่ไม่ได้มีการบันทึกเขียนเป็นเอกสารแต่อย่างใด แต่ต่อมาเมื่อเรกิเริ่มมีการเผยแพร่มากขึ้น ถึงได้มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรกัน ซึ่งเมื่อศึกษากันถึงต้นกำเนิดของสัญลักษณ์ จะพบว่าสัญลักษณ์เหล่านี้มีที่มาจากหลักคำสอนของศาสนาพุทธทั้งนั้น
โดยทั้ง 3 สัญลักษณ์ เป็นคำญี่ปุ่นที่มีรากคำศัพท์มาจากภาษาจีน เมื่อศึกษาให้ลึกซึ้งก็จะเข้าใจความหมายของรากภาษาก่อนที่จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่เราได้ใช้กันค่ะ
-
โชกุเร (Cho ku Rei) มาจากคำว่า 直靈 (zhí líng)
โช กุ เร
Cho Ku Rei
-
เซเฮกิ (Sei He ki) มาจากคำว่า 性癖 (xìng pǐ)
เซ เฮ กิ
Sei He Ki
-
ฮอนชาเซโชเน็น (Hon sha ze shō nen)
คำนี้ยกภาษาจีนมาทั้งคำคือ 本者是正念 (běn zhě shì zhèng niàn)
ฮอนชาเซโชเน็น
Hon sha ze shō nen
เรกิสายตะวันตก
#เรกิสายตะวันตก
ในเรกิสายตะวันตก มีทั้งการนำสัญลักษณ์ดั้งเดิมมาทั้ง 3 สัญลักษณ์ บวกกับสัญลักษณ์ที่เพิ่มเติมเข้าไปอีกมากมาย โดยสัญลักษณ์เหล่านั้นก็มาจากอาจารย์เรกิในสายตะวันตก ที่สมัยก่อนมีแนวคิดกันว่าการมีสัญลักษณ์นั้นเป็นสุดยอด เป็นเคล็ดลับ เคล็ดวิชา ดังนั้นคนที่เป็นอาจารย์สอนจึงพยายามสร้างสัญลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา โดยบางท่านก็นำไปประยุกต์กับส่วนส่วนอื่น เช่น Witchcraft, Shaman, Sigil เป็นต้น ทำให้สัญลักษณ์มีมากมายจนนับไม่ถ้วน
แต่ที่แพร่หลายกันส่วนใหญ่เป็นสัญลักษณ์มาจากอาจารย์ เคทลีน มิลเนอร์ (Kathleen Milner) ผู้ก่อตั้ง Karuna Reiki ได้มีส่วนอย่างมากในการสร้างสัญลักษณ์เรกิ รวมทั้งพิธีการต่าง ๆ ในการปรับจูนพลังหรือแอดทูนเรกิ (Attunement)
สัญลักษณ์ที่ใช้กันหลัก ๆ ของสายตะวันตก มีดังนี้ค่ะ
-โซน่า (Zo Nar)
-ฮ่าท (Harth)
-มาลา (Ma la, Ra ma)
-ดับเบิ้ลโชกุเร (Double Cho Ku Rei)
แล้วแต่ละสัญลักษณ์มีที่มาจากไหน?
สถาบันฯ Beyond Soul Academy ได้อธิบายไว้ได้เข้าใจง่ายเลยค่ะ
❤️ Soul Good Healing ❤️
อยากให้ทุกคนสัมผัสพลังงานที่มีอยู่จริง
และพัฒนาจิตวิญญาณไปร่วมกันค่ะ
#เรกิ
#เรกิญี่ปุ่น
#โชเด็น
#โอกุเด็น
#สอนเรกิ
#เรียนเรกิ
#reiki
#okuden
#shoden
#reiki japan