สมาคมอูซุยเรกิ
Usui Reiki Ryoho Gakkai
#เรกิญี่ปุ่น
หลังจากที่อาจารย์ อูซุย ได้ค้นพบพลังงานเรกิ และการเข้าถึง Anshin Ritsumei แล้ว (ใครที่พลาดบทความก่อนหน้าไป แนะนำให้อ่านก่อนนะคะ ^^)
ท่านก็ได้นำพลังงานเรกิมาถ่ายทอดต่อให้กับศิษย์ในสำนักของท่าน ซึ่งเดิมแล้วการถ่ายทอดต่อนั้นค่อนข้างเป็นแบบสำนักดั้งเดิม ถ้าให้เห็นภาพง่าย ๆ เหมือนในหนังจีนเลยค่ะ
มีอาจารย์ผู้มีวิชาไปฝึกวิชาอยู่บนภูเขา เมื่อสำเร็จวิชาแล้วจึงลงมาจากเขา แล้วก็มีลูกศิษย์มาขอฝากตัวเรียนวิชากับอาจารย์ ซึ่งระบบการสอนในช่วงนั้น ยังไม่ได้มีแบ่งเป็นขั้นเหมือนในปัจจุบัน การที่ศิษย์จะเรียนรู้แต่ละขั้นได้ อาจารย์ผู้สอนเท่านั้นที่จะเป็นผู้บอกว่าลูกศิษย์มีความสามารถพอที่จะผ่านไปขั้นต่อไปได้ ดังนั้นอาจารย์อูซุยต้องคอยดูพัฒนาการของลูกศิษย์แต่ละคน โดยที่ลูกศิษย์ไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไหร่จะสำเร็จวิชาขั้นสูงค่ะ ^^
ต่อมาเมื่อลูกศิษย์ลูกหาเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อาจารย์อูซุยเริ่มมีการปรับระบบการสอน โดยแบ่งออกเป็นขั้น รูปแบบคล้าย ๆ กับการแบ่งสายยูโด 柔道 (ตามประวัติบอกว่าอ.อูซุยได้แนวคิดมาจากเพื่อนที่เป็นเจ้าสำนักยูโดค่ะ) ทำให้เริ่มมีระบบ มีการแบ่งระดับชั้น ตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ไปจนถึงขั้นสูงสุด
____
ปี 1923 อาจารย์อูซุยเริ่มมีการแบ่งระบบดั้งเดิมสุด ซึ่งเรียกระบบนี้ว่า …
“อูซุย-โดะ” (Usui-Do) แบ่งลำดับชั้นออกเป็นทั้งหมด 13 ขั้นค่ะ ซึ่งการเรียนการสอนยังเป็นระบบปิด นั่นก็หมายความว่า มีเพียงเฉพาะศิษย์ในสำนักเท่านั้นที่ได้เรียนในระบบนี้ค่ะ
ส่วนการเรียนก็เป็นไปเพื่อการพัฒนาจิตวิญญาณเท่านั้น และยังไม่ได้มีการนำมือมาใช้ร่วมกับพลังงานแต่อย่างใดค่ะ
____
ปี 1925 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการถ่ายทอดวิชาเรกิเลยค่ะ
เริ่มมีการปรับระบบใหม่ เนื่องจากมีลูกศิษย์ของอาจารย์อูซุย ที่ได้เข้ามาฝึกวิชา แล้วก็สังเกตสิ่งที่อาจารย์อูซุยฝึก รวมทั้งลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่ฝึกวิชากันอยู่ แล้วก็ได้ค้นพบว่า ที่จริงแล้วเรกิสามารถใช้มือเข้ามาร่วมเพื่อส่งพลังงานไปยังจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้ และเรียกระบบนี้ว่า “อูซุย เต้เตะ” (Usui-Teate) นั่นเองค่ะ
ซึ่งในระบบนี้เริ่มมีการควบรวมแต่ละขั้น และตัดขั้นสูงสุดในขั้นที่ 13 ของระบบเดิมออก จนทำให้ในระบบนี้มีทั้งหมด 6 ขั้นค่ะ
____
ปี 1926 หลังจากที่อาจารย์ อูซุย เสียชีวิตไป
ได้มีการจัดตั้ง “สมาคมอูซุยเรกิ” ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ (臼井靈氣療法學會 : Usui Reiki Ryoho Gakkai, URR Gakkai ) เริ่มมีการเผยแพร่ระบบการสอนเรกิให้กับคนบุคคลภายนอก และเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีเพียงการเผยแพร่ในขั้นพื้นฐานเท่านั้น ส่วนในขั้นสูงก็ยังเป็นเฉพาะศิษย์ที่เรียนกันมาก่อนแล้ว และได้มีการควบรวมแต่ละขั้นอีก จนแบ่งลำดับขั้นออกเป็น 5 ขั้นค่ะ
ซึ่งในปัจจุบันการเรียนแบบระบบ URR Gakkai ที่เป็นเรกิญี่ปุ่นดั้งเดิม ยังคงนำเอาแนวคิดและลำดับขั้นจากระบบนี้อยู่ค่ะ
____
เรกิในปัจจุบัน มีวิวัฒนาการมา 100 ปีแล้วนะคะ และทุกการฝึกเรกิญี่ปุ่น ก็มีการนำมาใช้ร่วมกับการทำสมาธิเสมอ ไม่ว่าจะเป็นท่าฝึกที่ใช้เรกิ และการหายใจเข้ามาร่วมด้วย อีกทั้งยังมีท่าการทำสมาธิเรกิในทุกเช้า ทำให้เห็นว่าเรกิญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก ๆ กับการทำสมาธิ โดยใช้เรกิเข้ามาร่วมด้วยค่ะ
โดยลำดับขั้นการเรียนแบ่งออกเป็น 4 ขั้น
– ขั้นที่ 1 โชเด็น เรกิ (靈氣初傳)
– ขั้นที่ 2 โอกุเด็น เรกิ (靈氣奥傳)
– ขั้นที่ 3 ชินปิเด็น เรกิ (靈氣神秘傳)
– ขั้นที่ 4 ชิฮาน เรกิ (靈氣師範)
โดยในขั้น “ชิฮาน” ก็คือขั้นสูงสุดที่สามารถถ่ายทอดวิชาต่อได้ สามารถสอนได้ ปรับพลังงานเรกิให้กับนักเรียน ให้กับคนอื่นต่อได้ และรู้เคล็ดลับขั้นสูงในการถ่ายทอดวิชาเรกิต่อไปค่ะ
การถ่ายทอดพลังงานเรกิต่อให้กับผู้อื่นเรียกว่า
การปรับพลังงาน (Attunement)
โดย ชิฮาน หรือว่า เรกิมาสเตอร์ จะปรับพลังงานการสั่นสะเทือนของเรกิให้กับผู้รับ ในกระบวนการที่เรียกว่า การปรับพลังงาน เพื่อให้ผู้รับสามารถเชื่อมต่อพลังงานเรกิได้
หากศึกษาให้ลึกซึ้งจริงแล้ว…เรกิญี่ปุ่นกับเรกิตะวันตก ถึงแม้จะเรียกว่าเรกิเหมือนกัน แต่ก็มีจุดที่ทั้งเหมือนและแตกต่างกันอยู่หลายจุด เอาไว้เดี๋ยวมีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ
วันนี้เล่าพอหอมปากหอมคอ น่าจะพอเห็นภาพกว่าจะมาเป็นเรกิในปัจจุบันมีวิวัฒนาการยังไงกันบ้างนะคะ ^^
อ้อออ…ประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีดีกันอีกรอบนะคะ
ในวันพุธที่ 22 มี.ค.นี้แอนจะมีจัดกิจกรรมทำสมาธิ และจะนำพลังงานเรกิมาใช้ในการทำสมาธิด้วย
หากสนใจติดต่อแอดมิน หรือกดแอดไลน์ที่นี่ได้เลยค่ะ
.
กิจกรรม มีนา…พาเพื่อนทำสมาธิ
.
แล้วพบกันนะคะ 🙂
.
❤️ Soul Good Healing ❤️
อยากให้ทุกคนสัมผัสพลังงานที่มีอยู่จริง
และพัฒนาจิตวิญญาณไปร่วมกันค่ะ